นโยบายความเป็นส่วนตัว

นโยบายความเป็นส่วนตัว

นโยบายความเป็นส่วนตัว

ประกาศใช้เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 (ฉบับล่าสุด)

เราตระหนักดีถึงความเป็นส่วนตัวของท่าน ข้อความต่อไปนี้คือนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัท
ไดรฟ์ฮับ จำกัด ("เรา" หรือ "บริษัท") ว่าด้วยการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (รวมเรียกว่า “การประมวลผล”) ซึ่งอาจเกิดขึ้นในฐานะผู้ใช้บริการจองหรือเช่ายานพาหนะและคนขับผ่านช่องทางให้บริการของบริษัท เช่น เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือสื่อโซเชียลมีเดียของเรา เป็นต้น ตัวแทน ผู้ประสานงานแทน บิดา มารดา หรือผู้ปกครองของบุคคลดังกล่าว หรือบุคคลอื่นใดที่ท่านเช่ายานพาหนะหรือคนขับเพื่อประโยชน์ของบุคคลนั้น ("ท่าน" หรือ "ผู้ใช้บริการ")

เราจึงได้จัดทำนโยบายฉบับนี้เพื่อแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตลอดจนแจ้งให้ท่านทราบถึงสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และช่องทางการติดต่อเรา เพื่อการดำเนินธุรกรรมทางธุรกิจกับท่านอย่างสอดคล้องกับกฎหมาย รวมถึงเพื่อปรับปรุงเนื้อหาในเว็บไซต์ของเราและเพื่อแจ้งให้คู่ค้าของบริษัททราบของคำขอการจองของท่าน

1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเก็บรวบรวม

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังนี้

1.1 ข้อมูลการลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้งาน

(1) ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปและข้อมูลการติดต่อ เช่น ชื่อและนามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อิเล็กทรอนิกส์

(2) ข้อมูลของบัญชีสื่อโซเชียลมีเดียที่ใช้ลงทะเบียนบัญชี (ถ้ามี) เช่น Facebook หรือ Google Account รูปภาพบัญชีผู้ใช้งานในสื่อโซเชียลมีเดีย เป็นต้น

(3) ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้งาน ได้แก่ ชื่อบัญชีการใช้งาน (Account Name) ข้อมูลภายในบัญชีผู้ใช้งาน รหัสประจำตัว (Username) รหัสผ่าน (Password) อีเมลประจำตัว รูปภาพ ข้อมูลบัญชีที่ได้รับการปรับปรุง

(4) ข้อมูลอื่นใดที่ท่านได้แจ้งแก่บริษัท (ถ้ามี)

1.2 ข้อมูลส่วนบุคคลด้านการใช้บริการ

(1) ข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตนของท่าน หรือบุคคลอื่นใดที่ท่านเช่ายานพาหนะหรือคนขับเพื่อประโยชน์ของบุคคลดังกล่าว เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน/หนังสือเดินทาง สำเนาใบขับขี่ สำเนาหลักฐานการเดินทาง/ที่พัก สำเนาเอกสารรับรองการทำงาน สำเนาเอกสารรับรองการเป็นนักศึกษา สำเนาใบเคลมประกัน

(2) ข้อมูลตัวแทน ผู้ประสานงานแทน บิดา มารดา หรือผู้ปกครองของท่าน เช่น ชื่อ-สกุล หมายเลขโทรศัพท์ หรือข้อมูลการติดต่ออื่นใด ลายมือชื่อ เป็นต้น

(3) สื่อโซเชียลมีเดียสำหรับการติดต่อ เช่น Line หรือ WhatsApp ID Facebook หรือ Instagram Account

(4) รายละเอียดและประวัติการเช่ายานพาหนะและคนขับ เช่น รายละเอียดการเช่า ข้อมูลรถยนต์ ข้อมูลอุปกรณ์เสริม ประวัติการเช่ารถยนต์ เวลาที่เช่ารถยนต์ ผู้ให้เช่ารถยนต์
เป็นต้น

1.3 ข้อมูลส่วนบุคคลด้านการเงิน

ข้อมูล หลักฐาน และรายละเอียดเกี่ยวกับการชำระค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการ ประวัติการชำระเงิน และหลักฐานการชำระเงิน ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีธนาคารและบัตรเครดิต/เดบิต เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร ประเภทบัตร หมายเลขบัตรเครดิต/เดบิต ชื่อธนาคารพาณิชย์ของบัญชีธนาคาร ที่อยู่อิเล็กทรอนิกส์ที่ผูกกับบัตรเครดิต/เดบิต หมายเลขหลังบัตร (CVV) เป็นต้น

1.4 ข้อมูลส่วนบุคคลด้านเทคนิค

ข้อมูลการใช้งานและข้อมูลอุปกรณ์ที่ใช้ในการเข้าถึงและใช้บริการผ่านแพลตฟอร์มของบริษัท เช่น ตัวระบุอุปกรณ์ หมายเลข IP Address รหัสประจำตัวอุปกรณ์ ประเภทอุปกรณ์ ข้อมูลการเชื่อมต่อ ประเภทของเบราว์เซอร์ (Browser) ข้อมูลบันทึกการเข้าออกและใช้งาน ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) ข้อมูลเว็บไซต์ที่ท่านเข้าถึงก่อนและหลัง (Referring Website) ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ เป็นต้น

1.5 ข้อมูลด้านการร้องเรียน/ข้อพิพาท

ข้อมูลด้านการบริหารจัดการงานเรื่องร้องเรียนและข้อพิพาท เช่น ข้อมูลการตรวจสอบ การสืบสวนสอบสวนพฤติกรรมทุจริต หรือขัดต่อกฎหมาย กฎระเบียบ และข้อบังคับของบริษัท หรือสัญญาระหว่างท่านกับบริษัท ข้อมูลการพิจารณาและลงโทษ การดำเนินคดี และการใช้สิทธิทางกฎหมายของบริษัท รวมถึงข้อมูลรายงานกรณีที่มีการส่งรายงานแก่หน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องหรือหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมาย

1.6 ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์

บริษัทไม่มีกลุ่มเป้าหมายในการให้บริการแก่ผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามบางกรณีบริษัทอาจจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวเป็นครั้งคราวหากมีบุคคลดังกล่าวใช้บริการของบริษัทซึ่งบริษัทจะปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์

1.7 ข้อมูลที่ไม่มีความประสงค์ในการจัดเก็บ

โดยทั่วไปบริษัทไม่มีความประสงค์จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล (1) สัญชาติ (2) ศาสนา และ (3) หมู่โลหิต ที่ปรากฏอยู่ในสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน/หนังสือเดินทางของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ใดโดยเฉพาะ หากท่านได้มอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน/หนังสือเดินทางให้แก่บริษัท ขอให้ท่านปกปิดข้อมูลดังกล่าวก่อนส่งมอบให้แก่บริษัท และหากท่านมิได้ปกปิดข้อมูลนั้นให้ถือว่าท่านอนุญาตให้บริษัทดำเนินการปกปิดข้อมูลดังกล่าวได้ และถือว่าเอกสารที่มีการปกปิดข้อมูลนั้นมีผลสมบูรณ์และบังคับใช้ได้ตามกฎหมายทุกประการ

1.8 ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น

ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ได้แก่

(1) ข้อมูลการติดต่อสื่อสาร ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ และการทำกิจกรรมกับบริษัท เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสอบถามผ่านทางช่องทางของบริษัท ประวัติการเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัท เป็นต้น

(2) การบริหารจัดการด้านสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ซึ่งมีท่านหรือข้อมูลส่วนบุคคลของท่านปรากฏเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของสื่อโฆษณาหรือสื่อประชาสัมพันธ์ของบริษัท (ถ้ามี)

2. วิธีการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

2.1 การจัดเก็บโดยตรงจากท่าน

ท่านอาจให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัทโดยตรงผ่านขั้นตอนการสมัครและการใช้บริการของบริษัทผ่านเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางการให้บริการอื่นๆ การติดต่อกับบริษัท การสอบถามข้อมูล การกรอกแบบฟอร์ม การร้องเรียน การร่วมกิจกรรม การทำแบบสำรวจความคิดเห็น (Survey) หรือการให้ความเห็น/คำติชมแก่บริษัท โดยอาจเป็นการให้ข้อมูลส่วนบุคคลทั้งในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์และกระดาษ

2.2 การจัดเก็บโดยอัตโนมัติ

บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลทางเทคนิคบางอย่างเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ท่านใช้ ระบบปฏิบัติการ ข้อมูลกิจกรรม รูปแบบการเข้าใช้งาน พื้นที่การใช้งาน ข้อมูลประวัติการใช้งานเว็บไซต์ (Browsing) หรือข้อมูลเทคนิคอื่นใด โดยอาศัยการจัดเก็บผ่านการใช้งานคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน โดยท่านสามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการใช้คุกกี้ของบริษัทได้ที่เว็บไซต์ของบริษัท

2.3 การจัดเก็บจากบุคคลที่สาม

นอกจากนี้บริษัทอาจจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลอื่นหรือบุคคลที่สาม ได้แก่

(1) ผู้จัดหายานพาหนะให้เช่า หรือบริษัทรถเช่าที่อยู่ในแพลตฟอร์มของบริษัท

(2) บิดา มารดา หรือผู้ปกครองของท่าน (กรณีท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์)

(3) ผู้ให้บริการสื่อโซเชียลมีเดียของท่าน เช่น Facebook Google Line เป็นต้น

(4) ตัวแทน หรือผู้ประสานงานแทนของท่าน หรือบุคคลอื่นใดที่ท่านเช่ายานพาหนะหรือคนขับเพื่อประโยชน์ของบุคคลนั้น

3. วัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ("การประมวลผลข้อมูล") เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ (ซึ่งต่อไปนี้เรียกรวมกันว่า "วัตถุประสงค์การใช้ข้อมูล")
วัตุประสงค์ / กิจกรรม

ฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูล

1. การบริหารจัดการเพื่อให้บริการแก่ผู้ใช้บริการ
การดำเนินการตามขั้นตอนของบริษัทเพื่อให้บริการเช่ายานพาหนะและคนขับให้แก่ท่าน ซึ่งรวมถึงการลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้บริการ การประสานงาน การติดต่อสื่อสาร การจองยานพาหนะ และการดำเนินงานอื่นใดตามขั้นตอนของบริษัทเพื่อให้บริการแก่ท่านตามสัญญาหรือข้อตกลงการใช้บริการระหว่างท่านและบริษัท โดยรวมถึงสัญญาหรือข้อตกลงอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับข้อตกลงการใช้บริการดังกล่าวด้วย เช่น สัญญาค้ำประกันความเสียหาย เป็นต้น
ทั้งนี้ กรณีที่ท่านเป็นบิดา มารดา หรือผู้ปกครองของผู้ใช้บริการ บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการติดต่อประสานงาน การค้ำประกันความเสียหาย หรืออำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
ฐานสัญญา และ
ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

2. การบริหารจัดการด้านการเงิน
การดำเนินการตามขั้นตอนของบริษัทเพื่อบริหารจัดการด้านการเงิน ซึ่งรวมถึงกรณีดังต่อไปนี้
(1) การบริหารจัดการเกี่ยวกับการชำระค่าบริการ ค่าธรรมเนียม และค่าเช่ายานพาหนะหรือคนขับ เช่น การจัดทำประวัติการชำระเงิน การออกใบเสร็จรับเงิน เป็นต้น
(2) การบริหารจัดการเรื่องภาษีอากรและหลักฐานทางภาษี

ฐานสัญญา
ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย และฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย

3. การบริหารจัดการความเสี่ยงขององค์กร
การดำเนินการเพื่อบริหารจัดการและควบคุมความเสี่ยงของบริษัท โดยครอบคลุมแต่ไม่จำกัดเพียงความเสี่ยงด้านธุรกิจ ด้านผลิตภัณฑ์/บริการ และด้านสภาพคล่อง

ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

4. การประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร
การแจ้งข้อมูลหรือนำเสนอข่าวสารแก่ท่านเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ บริการ การโฆษณา การส่งเสริมการขาย เหตุการณ์สำคัญ หรือกิจกรรมอื่นของบริษัท รวมถึงการเชิญชวนเข้าร่วมงาน กิจกรรม หรือโครงการอื่นของบริษัท โดยแจ้งผ่านทางช่องทางที่ท่านตกลงอนุญาต เช่น ที่อยู่อิเล็กทรอนิกส์ ข้อความ (SMS) เป็นต้น

ฐานความยินยอม
5. การทำการตลาดเฉพาะบุคคล
การวิเคราะห์และการประมวลผลข้อมูลของท่านเพื่อจัดทำและนำเสนอโฆษณา ข้อเสนอ หรือรายการส่งเสริมการขายแก่ท่านในลักษณะของการทำการตลาดหรือการโฆษณาแบบเฉพาะบุคคล (Personalized Marketing) ซึ่งรวมถึงการเชื่อมโยงระหว่างนิสัยกับพฤติกรรม ความชอบ ความคิดของท่าน
ฐานความยินยอม
6. การพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ
การดำเนินการเพื่อการพัฒนาและปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท ซึ่งรวมถึงการสำรวจและสอบถามความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ การศึกษาวิจัย การวิเคราะห์ข้อมูล การทดสอบและทดลอง และการดำเนินการอื่นใดเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าว
ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
7. การบริหารจัดการด้านสื่อโฆษณาและการประชาสัมพันธ์
การบริหารจัดการและการดำเนินการด้านการโฆษณาและประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับบริษัท หรือผลิตภัณฑ์ บริการ หรือกิจกรรมของบริษัท ซึ่งมีท่านหรือข้อมูลส่วนบุคคลของท่านปรากฏเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของสื่อโฆษณาหรือสื่อประชาสัมพันธ์
ฐานความยินยอม

8. การจัดการข้อร้องเรียน ข้อพิพาท และคดีความ
การดำเนินการเพื่อตรวจสอบและจัดการเกี่ยวกับข้อร้องเรียน ข้อพิพาท และคดีความ รวมถึงการดำเนินการเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ การดำเนินคดีต่าง ๆ ตลอดจนการดำเนินการเพื่อบังคับคดีตามกฎหมายของบริษัท

ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย และฐานการจำเป็นเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องหรือ
การยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
(กรณีข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อน)

9. การรักษาความมั่นคงปลอดภัย
การดำเนินการเพื่อประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศ ข้อมูล และทรัพย์สินของท่านและบริษัท ซึ่งรวมถึง
(1) การตรวจสอบ ทดสอบ และดำเนินการเพื่อพัฒนามาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยของระบบสารสนเทศ ข้อมูล และทรัพย์สินของท่านและบริษัท การจัดการและการคุ้มครองโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
(2) การตรวจสอบ ตรวจจับ และดำเนินการเพื่อป้องกันการเข้าถึงระบบสารสนเทศ ข้อมูล และทรัพย์สินของท่านและบริษัทโดยไม่ได้รับอนุญาต
(3) การบันทึกภาพและเสียงผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) ภาพถ่าย บันทึกภาพและบันทึกเสียง บันทึกการสนทนา การบันทึกและควบคุมการเข้าออกอาคารและพื้นที่ของบริษัท

ฐานประโยชน์โดยชอบด้วย
กฎหมาย
10.การปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายหรือคำสั่งของหน่วยงานรัฐ
การดำเนินการเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ ข้อบังคับ หรือระเบียบของหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแลเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจซึ่งไม่จำกัดแต่เพียงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับภาษีอากร กฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือคำสั่งจากหน่วยงานรัฐ รวมถึงการปฏิบัติตามกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย

ฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย

11.การป้องกันภยันอันตราย
การดำเนินการด้วยความสุจริตว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีความจำเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น ในกรณีที่ท่านไม่สามารถให้ความยินยอมเพื่อเปิดเผยข้อมูลในขณะนั้นได้ และไม่มีวิธีการอื่นใดที่จะช่วยป้องกันหรือระงับอันตรายดังกล่าวได้แล้ว
ฐานป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

4. การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

เราปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ที่เราได้รับจะได้รับการคุ้มครองและดำเนินการตามขั้นตอนที่เราเชื่อว่าเป็นขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสามารถเข้าถึงได้เฉพาะผู้ที่เรากำหนดให้เข้าถึงได้เท่านั้น โดยพนักงานทุกคนของบริษัทจะยึดถือปฏิบัติตามแนวทางรักษาความปลอดภัยที่บริษัทกำหนดอย่างเคร่งครัด และการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์การใช้ข้อมูล

5. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทดำเนินการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบริษัทจะจัดให้มีการลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อพ้นระยะเวลาตามที่กำหนดตามตารางด้านล่าง หรือเมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่มีความจำเป็นในการดำเนินการตามวัตถุประสงค์การใช้ข้อมูลแล้ว เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทต้องจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ ข้อบังคับ ระเบียบ หรือคำสั่งจากหน่วยงานรัฐหรือหน่วยงานกำกับดูแล รวมถึงการบังคับใช้สิทธิตามกฎหมายหรือสัญญาตามที่บริษัทเห็นสมควร โดยมาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล มีระยะเวลาจัดเก็บข้อมูล เป็นดังนี้
ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคล ระยะเวลาจัดเก็บข้อมูล
ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บโดยฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย 10 ปี หลังสิ้นสุดสัญญา

ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บโดยฐานปฏิบัติตามสัญญา

5 ปี หลังสิ้นสุดสัญญา

ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บโดยฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย

ระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด

ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บโดยฐานความยินยอม

แล้วแต่กรณีตามที่กำหนดในเอกสารการขอความยินยอม

6. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลภายนอกภายใต้ขอบเขตวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูล โดยบุคคลภายนอกที่บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ได้แก่

6.1 บุคลากรของบริษัท

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัทที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้วัตถุประสงค์การใช้ข้อมูลตามนโยบายฉบับนี้ โดยบริษัทจะจำกัดเฉพาะบุคคลที่มีสิทธิเข้าถึงและเปิดเผยแก่บุคคลดังกล่าวเท่าที่จำเป็นตามหลักรู้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น (Need to Know Basis)

6.2 ผู้ให้บริการเช่ายานพาหนะและคนขับ

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่ผู้ให้บริการเช่ายานพาหนะและคนขับเพื่อนัดหมายและจองยานพาหนะให้แก่ท่านตามวัตถุประสงค์การใช้ข้อมูลในการให้บริการ โดยบริษัทจะเปิดเผยเท่าที่จำเป็นแก่บุคคลที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น

6.3 ผู้ให้บริการภายนอก

บริษัทอาจใช้บริการผู้ให้บริการภายนอกที่จำเป็นในการบริหารจัดการและการดำเนินงานของบริษัทตามวัตถุประสงค์การใช้ข้อมูล เช่น ผู้ให้บริการภายนอกเกี่ยวกับการบริหารจัดการข้อมูล ผู้ให้บริการคลาวด์สำหรับการสำรองข้อมูลและจัดเก็บข้อมูล (Cloud Service Provider) ผู้ให้บริการเกี่ยวกับการจัดการข้อร้องเรียน ผู้ให้บริการเกี่ยวกับการติดต่อลูกค้า (Call Center) ผู้ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ผู้ให้บริการอีเมล ผู้ให้บริการทางการเงินและการชำระเงิน เป็นต้น รวมถึงที่ปรึกษาและผู้ให้บริการด้านวิชาชีพต่าง ๆ เช่น ที่ปรึกษาและสำนักงานกฎหมาย ผู้ตรวจสอบบัญชี ทนายความ เป็นต้น

6.4 หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานอื่นที่กฎหมายกำหนด

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่หน่วยงานราชการ หน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานอื่นที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานดังกล่าว เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย กฎเกณฑ์ ข้อบังคับ หรือระเบียบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่จำกัดแต่เพียงกฎหมายว่าด้วยภาษีอากร กฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกรณีที่เป็นคำสั่งจากหน่วยงานรัฐหรือศาล รวมถึงการปฏิบัติตามกระบวนการยุติธรรม การบังคับใช้กฎหมาย การใช้สิทธิตามกฎหมายของบริษัท

6.5 บุคคลภายนอกอื่นๆ

บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอกอื่นๆ เช่น ตัวแทน ผู้ประสานงานแทน บิดา มารดา หรือผู้ปกครองของท่าน (กรณีท่านมีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ หรือท่านมิได้ทำการเช่ายานพาหนะ/คนขับด้วยตนเอง) หรือบุคคลอื่นใดที่ท่านเช่ายานพาหนะ/คนขับเพื่อประโยชน์ของบุคคลดังกล่าว เป็นต้น ทั้งนี้ การเปิดเผยจะยังคงอยู่ภายใต้หลักการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท

7. สิทธิของเจ้าของข้อมูล

ท่านมีสิทธิในการร้องขอให้บริษัทดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังต่อไปนี้

7.1 สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (Right of Access)

สิทธิในการขอเข้าถึง หรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม

7.2 สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง (Right to Rectification)

สิทธิขอตรวจสอบ เปลี่ยนแปลง ปรับปรุง หรือแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้มีความถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน โดยไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

7.3 สิทธิในการคัดค้านการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Object)

สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใดก็ได้ โดยบริษัทจะดำเนินการดังกล่าวในกรณีดังต่อไปนี้

(1) กรณีที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยอาศัยฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลภายนอก หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะในการประมวลผลข้อมูล เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทสามารถแสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า หรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้อง การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้อง หรือการยกข้อต่อสู้ตามกฎหมาย

(2) การประมวลผลข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ของการตลาดแบบตรง

(3) การประมวลผลข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่เป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัท

7.4 สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Data Portability)

ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงมีสิทธิขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่น หรือตัวท่านเอง เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้

7.5 สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (Right to Withdraw Consent)

ในกรณีที่บริษัทอาศัยความยินยอมของท่านเป็นฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมสำหรับการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้กับบริษัทได้ตลอดระยะเวลาที่บริษัทจัดเก็บข้อมูลดังกล่าว เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอมโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมดังกล่าวย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ให้ความยินยอมแล้ว

7.6 สิทธิในการลบข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Erasure)

สิทธิในการขอให้บริษัทลบหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ในกรณีดังต่อไปนี้

(1) ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไม่มีความจำเป็นสำหรับการดำเนินการตามวัตถุประสงค์การใช้ข้อมูลแล้ว

(2) ท่านขอถอนความยินยอมที่เป็นฐานในการประมวลผลข้อมูล และบริษัทไม่มีอำนาจหรือฐานทางกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลดังกล่าวอีกต่อไป

(3) ท่านได้คัดค้านการประมวลผลตามข้อ 7.3

(4) เมื่อมีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

กรณีที่ระบุไว้ข้างต้นนี้จะไม่นำมาใช้บังคับกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความจำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เพื่อจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือสถิติ เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่อการจำเป็นในการปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับเวชศาสตร์ป้องกันหรืออาชีวเวชศาสตร์ หรือประโยชน์สาธารณะด้านการสาธารณสุข เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อตั้ง ปฏิบัติตาม หรือใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย

7.7 สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to Restriction of Processing)

สิทธิขอให้ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีดังต่อไปนี้

(1) บริษัทอยู่ระหว่างการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ท่านร้องขอ

(2) กรณีข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือทำให้ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ตามข้อ 7.6 แต่ท่านประสงค์ให้ระงับการใช้แทน

(3) บริษัทไม่มีความจำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอีกต่อไป แต่ท่านมีความจำเป็นและขอให้บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวเพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้อง การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้อง หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

(4) บริษัทอยู่ในระหว่างการพิสูจน์ตามข้อ 7.3 (1) หรือตรวจสอบตามข้อ 7.3 (3) เพื่อปฏิเสธการคัดค้านของท่านตามข้อ 7.3

7.8 สิทธิในการร้องเรียนหน่วยงานกำกับดูแล (Right to File Complaint)

ในกรณีที่บริษัท ลูกจ้าง หรือพนักงานของบริษัทฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้

8. การใช้สิทธิและการติดต่อ

ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเรา หรือมีข้อเสนอแนะ หรือประสงค์ใช้สิทธิของตนตามข้อ 7 ให้ดำเนินการติดต่อมาที่

ชื่อบริษัท บริษัท ไดรฟ์ฮับ จำกัด
สถานที่ติดต่อ

เลขที่ 193-195 อาคารเลครัชดา ชั้น 3B ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110

ช่องทางการติดต่อ

เบอร์โทรศัพท์: 02-038-5222
อีเมล: [email protected]

ช่องทางการติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ชื่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: นายพิทยา ญาณสมบูรณ์
สถานที่ติดต่อ: 193-195 อาคารเลครัชดา ชั้น 3B ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
เบอร์โทรศัพท์: 02-038-5222
อีเมล: [email protected]

โดยบริษัทจำเป็นต้องตรวจสอบยืนยันตัวตนของท่านก่อนการดำเนินการตามคำร้องใช้สิทธิและจะพยายามอย่างเต็มที่ตามความสามารถของระบบที่เกี่ยวข้องเพื่ออำนวยความสะดวกและดำเนินการตามคำร้องขอของท่านโดยไม่ชักช้าภายในสามสิบ (30) วันนับแต่วันที่เราได้รับคำร้องดั งกล่าว เว้นแต่จะปรากฏข้อเท็จจริงว่าการดำเนินการตามคำร้องขอนั้นก่อให้เกิดภาระแก่เราเกินสมควร หรือเป็นกรณีที่เรามีสิทธิปฏิเสธคำร้องดังกล่าวได้ หรือเป็นการเสี่ยงต่อการละเมิดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่น หรือเป็นการขัดต่อกฎหมาย หรือกรณีที่เป็นการพ้นวิสัยในทางปฏิบัติตามคำร้องขอ

9. ผลกระทบจากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล

9.1 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทดำเนินการประมวลผลข้อมูลโดยอาศัยฐานสัญญาและฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อบริษัทในการปฏิบัติตามสัญญาและกฎหมายที่เกี่ยวข้องตามวัตถุประสงค์การใช้ข้อมูล ในกรณีที่ท่านปฏิเสธการให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวอาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์การใช้ข้อมูลได้ จนกว่าท่านจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นแก่บริษัทอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ เช่น บริษัทอาจไม่สามารถให้บริการจองรถยนต์แก่ท่านได้ เป็นต้น

9.2 ในกรณีที่ท่านปฏิเสธหรือเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูล อาจส่งผลให้ท่านถูกจำกัดสิทธิบางอย่าง หรือส่งผลให้บริษัทอาจไม่สามารถบริหารจัดการหรือดำเนินการตามวัตถุประสงค์การใช้ข้อมูลที่ท่านได้ปฏิเสธหรือเพิกถอนความยินยอมได้อย่างสมบูรณ์หากข้อมูลดังกล่าวจำเป็นต่อบริษัทในการดำเนินการนั้น

10. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

บริษัทอาจส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก บริษัทในเครือของบริษัท หรือผู้ให้บริการที่อยู่ในต่างประเทศซึ่งประเทศปลายทางดังกล่าวอาจมีหรืออาจไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด อย่างไรก็ตามบริษัทจะจัดให้มีขั้นตอนและมาตรการต่าง ๆ เพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีความปลอดภัย และในกรณีที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดบริษัทจะขอความยินยอมจากท่านในการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายดังกล่าว

11. นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลอื่น

นโยบายฉบับนี้ใช้เฉพาะสำหรับการจัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในฐานะผู้ใช้บริการจองหรือเช่ายานพาหนะและคนขับผ่านช่องทางให้บริการของบริษัท เช่น เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือสื่อโซเชียลมีเดียของบริษัท เป็นต้น ตัวแทน ผู้ประสานงานแทน บิดา มารดา หรือผู้ปกครองของบุคคลดังกล่าว หรือบุคคลอื่นใดที่ท่านเช่ายานพาหนะ/คนขับเพื่อประโยชน์ของบุคคลนั้น ไม่รวมถึงกรณีอื่นใดที่ท่านจะต้องศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวแยกจากนโยบายของบริษัทฉบับนี้อย่างสิ้นเชิง

12. นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ General Data Protection Regulation (GDPR)

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้จัดทำขึ้นโดยสอดคล้องตามข้อกำหนดของ General Data Protection Regulation (“GDPR”) ซึ่งเป็นกฎหมายที่สหภาพยุโรป (EU) ออกบังคับใช้ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 โดยที่ GDPR จะมีผลบังคับใช้ภายในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป รวมถึงกรณีที่มีการติดต่อรับ-ส่งข้อมูลส่วนบุคคลกับบุคคลในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ดังนั้น บริษัทจึงจำเป็นต้องมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสมและเพียงพอตาม GDPR ด้วยเช่นกัน
บริษัทได้ตระหนักถึงความสำคัญและเพื่อรองรับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลในความครอบครองอย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของ GDPR และพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ของประเทศไทย

13. กฎหมายที่ใช้บังคับ

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ให้อยู่ภายใต้การบังคับและการตีความตามกฎหมายไทย โดยศาลไทยเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณาข้อพิพาทใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นหรือเกี่ยวข้องกับนโยบายฉบับนี้ รวมถึง General Data Protection Regulation (“GDPR”) ซึ่งเป็นกฎหมายที่สหภาพยุโรป (EU) ออกบังคับใช้ในประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2018

14. การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัทอาจทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลของท่านและการเปลี่ยนแปลงของกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทจะแจ้งให้ทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงที่สำคัญผ่านช่องทางที่เหมาะสม ทั้งนี้ หากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นการกำหนดวัตถุประสงค์การใช้ข้อมูลเพิ่มเติม บริษัทอาจขอความยินยอมจากท่านก่อนการประมวลผลข้อมูลตามวัตถุประสงค์นั้นสำหรับกรณีที่กฎหมายกำหนดให้ต้องขอความยินยอม อย่างไรก็ตามท่านเข้าใจเป็นอย่างดีและยอมรับว่าเป็นหน้าที่ของท่านในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ทุกครั้งที่แวะชม หรือเยี่ยมชม หรือมีการใช้บริการจากเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัท

ติดต่อเรา