อยากเป็นเจ้าของรถมือสองทั้งที สิ่งที่ต้องทำก่อนคิดจะออกรถ
คือ ต้องรู้จักวิธีคำนวณค่างวดรถให้เป็นเสียก่อน เพราะหากเรารู้ค่างวดรถแล้ว เราจะสามารถจัดสรรเงินส่วนต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบมากขึ้นและจะได้รู้ว่าหากค่างวดออกมาเท่านี้ จะสามารถผ่อนชำระได้หรือไม่ วันนี้ DriveHub ศูนย์รวมบริการรถเช่าอุบลมีวิธีคำนวณค่างวดรถมือสองแบบง่าย ๆ มาฝากค่ะ
สูตรคำนวณรถมือสอง
- ดอกเบี้ยต่อปี = ยอดจัด x ดอกเบี้ย %
- คำนวณดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญา = ดอกเบี้ยต่อปี x จำนวนปีที่ผ่อน
- คำนวณยอดสินเชื่อรวมดอกเบี้ย = ดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญา+ยอดจัดไฟแนนซ์
- คำนวณค่าVAT = ยอดสินเชื่อรวมดอกเบี้ย x 7%
- คำนวณยอดรวมสินเชื่อหลัง VAT = ยอดสินเชื่อรวมดอกเบี้ย VAT
- คำนวณยอดผ่อนต่อเดือน = ยอดรวมสินเชื่อหลัง VAT ÷จำนวนเดือนที่ผ่อน
ตัวอย่างคำนวณ
สมมติว่าคุณต้องการซื้อรถยนต์ Ford Ranger 2.2 DOUBLE CAB รุ่นปี 2016 ราคาขายอยู่ที่ 678,000 บาท ผ่อน 60 งวด ดอกเบี้ยอยู่ที่ 6.5% ดาวน์ 10% เป็นเงิน 67,800 บาท คงเหลือยอดจัดอยู่ที่ 610,200 บาท คำนวณได้ดังนี้:
- คำนวณหาดอกเบี้ยต่อปี =ยอดจัด 610,200x 6.5% = 39,663
- คำนวณหาดอกเบี้ยตลอดอายุสัญญาx 5ปี (60เดือน) = 39,663 x 5 = 198,315
- คำนวณยอดสินเชื่อรวมดอกเบี้ย 198,315 + 610,200= 808,515
- คำนวณค่า VAT ตลอดอายุสัญญา = 56,596.05
- คำนวณค่ายอดสินเชื่อหลัง VAT = 808,515 + 56,596.05 = 865,111.05
- คำนวณค่าผ่อนต่อเดือน 865,111.05 ÷ 60 = 14,419
ไม่ยากเลยใช่ไหมคะสำหรับการคำนวณหาค่างวดรถมือสอง
เมื่อรู้ยอดที่จะต้องผ่อนชำระแล้ว ก็ต้องมาคำนวณว่าเรามีรายรับที่พอจะจ่ายสำหรับการเช่าซื้อรถคันที่ต้องการหรือไม่ ทั้งนี้คุณควรจะทำบัญชีรายรับ – รายจ่าย ภายในครัวเรือนของคุณด้วยเพื่อที่จะได้ดูว่าเงินส่วนใหญ่นั้นใช้จ่ายไปกับสิ่งใด ควรจะตัดค่าใช้จ่ายใดออกหรือมองหาค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นแล้วตัดภาระฟุ่มเฟือยเหล่านั้นออกไปเสีย จะได้นำเอาเงินเหล่านั้นไปจ่ายค่ารถดีกว่า การผ่อนชำระค่ารถนั้นจะต้องทำให้ดี ผ่อนชำระให้ตรงวัน เพราะการผ่อนชำระที่ดีจะช่วยให้คุณมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี ยิ่งหากได้เป็นลูกหนี้เกรดเอ ในคราวต่อ ๆ ไป หากคุณทำการขอสินเชื่อ คุณก็จะสามารถขอสินเชื่อได้ง่าย สามารถเลือกได้ว่าจะทำการกู้ยืมกับสถาบันการเงินไหน เรียกว่ามีภาษีต่อรองที่ดีกว่านั่นเองค่ะ ..